Logo
บริษัท ดับเบิล เอ็ม เทคโนโลยี แมเนจเม้นท์ จำกัด
Double M Technology Management Co., ltd

JeGe-FAQ

เข้าชม: 5,490

หมวดหมู่สินค้า :
หมวดหมู่สินค้าย่อย :
ยี่ห้อ :
รุ่นสินค้า :
ประเภทสินค้า :
  • สินค้า, ผลิตภัณฑ์
ข้อมูลอัพเดต : 04/11/2556 16:02

รายละเอียดสินค้า/บริการ

ระบบ Double M JeGe’ ต่างจากระบบบัญชีอย่างไร
พื้นฐานของระบบ Double M JeGe’ พัฒนาจาก MRP สำหรับบริการจัดการวัตถุดิบในคลังสินค้าให้เพียงพอกับจำนวนการผลิตของสินค้าสำเร็จรูป โดยจะมีการเชื่อมโยงสูตรการผลิตและขั้นตอนการผลิตไว้ด้วย สูตรการผลิตหรือ BOM (Bill of Materail) จะเป็นการบอกจำนวนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตของสินค้าสำเร็จรูปแต่ละรายการ ส่วนขั้นตอนการผลิตเป็นการแสดงกระบวนการผลิตแต่ละขั้นตอน   หลังจากที่เปิดใบสั่งขาย ระบบจะคำนวณวัตถุดิบที่ไม่พอในการผลิตให้ฝ่ายวางแผนอัตโนมัติ และเปลี่ยนเป็นใบสั่งผลิตให้ฝ่ายผลิตแต่ละรายการสินค้าอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเขียนข้อมูลใหม่ และยังติดตามงานที่ผลิตว่าอยู่ขั้นตอนใด จำนวนเท่าไรได้อย่างสะดวกรวดเร็ว  พร้อมกับตรวจสอบต้นทุนการผลิตของใบสั่งผลิตแต่ละครั้งให้ทราบทันที 
สำหรับระบบ Double M JeGe’ ได้พัฒนาเข้าสู่ ERP (Enterprise Recourses Planning) โดยเพิ่มความสามารถด้านระบบบัญชี และระบบบริหารงานบุคคลเพิ่มเติม โดยหลังจากที่เปิดใบส่งสินค้า(อินวอยส์) จะผ่านเข้าไปสู่บัญชีลูกหนี้ให้  และใบสั่งซื้อเมื่อมีการรับสินค้า จะผ่านเป็นบัญชีเจ้าหนี้ให้เอง และผ่านไปปิดบัญชีทั่วไป ซึ่งจะได้งบทดลอง งบดุล งบกำไรขาดทุน เหมือนกับระบบบัญชีทั่วไป
ระบบ Double M JeGe’ ต่างจากระบบอีอาร์พีอื่นๆ อย่างไร
ระบบ Double M JeGe’ เป็นการพัฒนาต่อยอดเฉพาะธุรกิจผลิตเครื่องประดับโดยเฉพาะ โดยรวมมือกับกลุ่มผู้ประกอบการผลิตเครื่องประดับ Netnovision Club ให้เหมาะสมกับผู้ผลิตเครื่องประดับโดยเฉพาะ ที่สามารถทำงานเหมือนกับ Double M Smartbiz หรืออีอาร์พีทั่วไปแล้ว ยังเพิ่มเติมส่วนของการคิดต้นทุนสินค้าตามราคาของเนื้อทองคำหรือเนื้อเงินที่ปรับขึ้นลงในแต่ละวันได้สะดวก รวดเร็ว ถูกต้องแล้ว และสามารถเก็บข้อมูลของค่าซิ ให้กับพนักงานและบริษัทฯทุกขั้นตอน ทำให้การบริหารจัดการการผลิตเครื่องประดับ...เปลี่ยนจากระบบทำงานด้วยเขียนเอกสารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ได้ครบกระบวนการทำงานอย่างแท้จริง

ระบบ Double M JeGe’ / Double M JeGe’ Plus /Double M JeGe’ Cloud ต่างกันอย่างไร
ระบบ Double M JeGe’ เป็นเทคโนโลยี Client Server คือระบบต้องใช้เครื่องแม่ข่ายติดตั้งโปรแกรมไว้ และต่อเครือข่ายแลนไปยังเครื่องลูกข่าย ซึ่งต้องติดตั้งโปรแกรมในเครื่องลูกข่ายทุกครั้ง ทำให้การบริหารจัดการ การติดตั้งทำงานได้ไม่สะดวก

ระบบ Double M JeGe’ Cloud Computing โปรแกรมพัฒนาเข้าสู่รูปแบบ Web application หรือการเรียกใช้งานโปรแกรมต้องเรียกผ่านโปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ต เหมือนกับดูเว็บไซต์ (Internet Explorer,Firefox,safari)  ซึ่งโปรแกรมและฐานข้อมูลของผู้ใช้ได้ถูกจัดการเก็บไว้ที่ศูนย์บริการข้อมูลอินเตอร์ (Internet Data Center) ทำให้สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์อื่นๆทีสามารถดูอินเตอร์เน็ตได้ทำงานผ่านโปรแกรมได้  และสามารถทำงานทุกสถานที่ ทุกเวลาได้ โดยต้องสามารถต่ออินเตอร็เน็ตความเร็วสูงหรือ 3G ก็สามารถทำงานได้
ส่วนค่าใช้จ่ายของระบบ Cloud Computing จะเปลี่ยนระบบให้บริการแบบรายปีแทนการซื้อไลเซนซ์เหมือนกับ Double M JeGe’

ส่วนระบบ Double M JeGe’ Plus เป็นโปรแกรมในรูปแบบเทคโนโลยี Web application เหมือนกับ cloud computing  แต่ผู้ใช้ต้องซื้อในรูปแบบของไลเซนท์ ไปติดตั้งที่สำนักงานเอง พร้อมกับซื้อไลเซนต์ระบบฐานข้อมูล ระบบปฏิบัติการ ระบบเว็บเซอรวิส และจัดการดูแลระบบฐานข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้ที่มีทีมสารสนเทศภายในองค์กรเอง
ระบบฐานข้อมูลออราเคิลและเครื่องมือออราเคิล มีความสำคัญอย่างไรกับ Double M JeGE’
ระบบฐานข้อมูลออราเคิลเป็นระบบฐานข้อมูลที่รองรับจำนวนข้อมูลขนาดใหญ่ได้ ซึ่งใช้องค์กรภาครัฐบาล ธนาคาร องค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาข้อมูลที่เกิดขึ้นในปริมาณมากๆต่อวัน และต้องการเก็บรักษาข้อมูลไว้ใช้ระยะยาวกว่า 10 ปีขึ้นไป
เครื่องมือพัฒนาของออราเคิลเป็นเครื่องมือพัฒนาที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถสูงในการทำงาน และสามารถทำงานได้ดีกับระบบฐานข้อมูลออราเคิล ในเรื่องความเสถียร ความถูกต้องแม่นยำ ความรวดเร็วของการทำงานได้เป็นอย่างดี
ระบบ Double M JeGE’ ช่วยบริหารการงานอย่างไร
ธุรกิจยุคศตวรรษที่ 21 นอกจากอาศัยปัจจัยในเรื่องคุณภาพสินค้า ออกแบบผลิตภัณฑ์  ชื่อเสียงของแบรนด์เนม การบริหารจัดการภายในองค์กรเป็นเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ผลิตที่ส่งออกไปยังประเทศกลุ่มยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่นที่กำหนดมาตราฐานต่างๆไว้ และมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ยา หรือแม้กระทั่งชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ต้องสามารถตรวจสอบวัตถุดิบที่นำมาผลิตสำหรับการผลิตครั้งนั้นมาจากแหล่งใด ใครผลิต กระบวนการใดเกิดปัญหาต่างๆบ้าง ซึ่งต้องรายงานให้กับลูกค้าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง รวดเร็ว
ระบบ Double M JeGe’ เป็นระบบที่เก็บข้อมูลของวัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิต ของแต่ละสินค้าสำเร็จรูปไว้ ซึ่งสามารถสั่งสำเนาได้  ทำให้สามารถประเมินราคาต้นทุน ราคาขาย กำไรได้ทุกรายการสินค้า โดยเฉพาะขณะเวลาที่ต้องการจะเสนอราคาขายของสินค้าที่ใช้วัตถุดิบเป็นทองคำ ซึ่งราคาปรับตลอดเวลา สามารถปรับราคาตลาดได้โดยใช้ราคา spot cost  Set ในระบบได้ ทำให้เสนอราคาได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

หลังจากที่มีใบสั่งขายเข้า ระบบจะคำนวณวัตถุดิบในคลังสินค้า และหักใบขอซื้อ ใบสั่งซื้อที่สินค้ายังไม่มีการรับเข้าคลัง เพื่อจะขอซื้อเฉพาะจำนวนที่ขาดจริงๆ  ประโยชน์ที่ได้รับคือ
1.สินค้าคงคลังลดลง   
2.ประสิทธิภาพของพนักงานเพิ่มมากขึ้น และทำให้มีวัตถุดิบเพียงพอกับการผลิต
3.โอกาสในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น ในรูปแบบของเวลาทำงาน  ปริมาณเงินสดหมุนเวียน
ใบสั่งขายที่สั่งเข้าระบบจะส่งต่อไปยังฝ่ายผลิตให้อัตโนมัติ พร้อมแสดงรูปภาพ รายละเอียดวัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิตจากที่ถูกสร้างไว้ สามารถจ่ายงานเข้าสู่กระบวนการผลิตตามขั้นตอน ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนทำตัวเรือนที่ต้องผ่านกระบวนการหล่อ  และส่วนของการคัดเพชร พลอย ซึ่งในกระบวนแต่ละจะมีการจ่ายงานเพื่อบันทึกจำนวนและน้ำหนักของชิ้นงาน เศษ ฝุ่นของ เพื่อคำนวณค่าซิให้แต่ละขั้นตอน หรือช่างแต่ละคนให้  ซึ่งกระบวนการนี้จะได้ต้นทุนการผลิตของแต่ละชิ้นงานเพื่อส่งต่อให้ฝ่ายบัญชีใช้ในบันทึกต้นทุนการผลิต โดยที่ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ในการเก็บต้นทุน และสามารถเรียกดูงานระหว่างผลิตได้ เพื่อบันทึกบัญชีในแต่ละงวดเวลาได้
ใบสั่งซื้อแต่ละใบจะถูกให้ที่มีการรับเข้าคลังสินค้าราคาตามใบแต่ละรายการ และจะเปลี่ยนเป็นการบันทึกเป็นระบบบัญชีเจ้าหนี้ให้ ไม่ต้องเสียในการทำงานซ้ำซ้อน  ส่วนใบส่งสินค้า(อินวอยส์หรือใบกำกับภาษี) จะเปลี่ยนเป็นการบันทึกเข้าสู่บัญชีลูกหนี้ให้ และบันทึกการรับเงินจากระบบ เพื่อบริหารลูกหนี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ฝ่ายบริหารสามารถรับรู้ข้อมูลจากระบบทุกนาทีผ่านระบบ Double M Dashboard ที่จะรายงานในรูปแบบกราฟในเรื่องของยอดขาย สินค้าคงคลัง ลัดส่วนลูกหนี้และเจ้าหนี้  จำนวนงานที่อยู่ในการผลิตทุกใบสั่งงานได้สะดวก จำนวนพนักงานที่ทำงานในแต่ละช่วงเวลาทันที เหมือนกับมีข้อมูลช่วยในการบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพสูงสุด